การเลี้ยงนกกระจอกเทศ
ในช่วงอายุ 4 - 23 เดือน
นกกระจอกเทศ: สัตว์เศรษฐกิจ
สัตว์เศรษฐกิจ
ในช่วงระยะนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก
เพราะเป็นช่วงที่นกกระจอกเทศเจริญเติบโตเร็วมาก น้ำหนักตัวในระยะนี้มักจะไม่สมดุลกับขาของตัวนก
เพราะขาที่มีขนาดเล็กมาก ระยะนี้นกกระจอกเทศจึงมักจะเกิดปัญหาเกี่ยวกับขาที่รับน้ำหนักไม่ไหว
หรือขาผิดปกติอยู่บ่อยครั้ง
สำหรับผู้ที่เลี้ยงดูแลนกกระจอกเทศในช่วงระยะนี้
จะมีขั้นตอนการจัดการดูแลดังนี้
1. อาหารที่ให้สำหรับนกกระจอกเทศในระยะนี้
จะประกอบด้วยพลังงาน 2,400 กิโลแคลอรี่ โปรตีน 18% แคลเซียม 1.6% ฟอสฟอรัส 0.8%
และควรเสริมด้วยหญ้าแห้งหรือหญ้าสด นอกจากนี้
ผู้เลี้ยงควรควบคุมน้ำหนักตัวของนกกระจอกเทศ อย่าให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป
เพราะขาของนกกระจอกเทศในระยะนี้ยังไม่แข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักตัวของนกกระจอกเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้
2. ผู้เลี้ยงควรควบคุมการระบายอากาศภายในโรงเรือน
ส่วนบริเวณที่ให้นกกระจอกเทศเดินเล่น ซึ่งเป็นบริเวณภายนอกโรงเรือน ผู้เลี้ยงจะต้องระมัดระวังอย่าให้มีเศษวัสดุ
เช่น เศษไม้ เศษผ้า เหล็ก ตะปู ฯลฯ ตกหล่นอยู่ เพราะนกกระจอกเทศจะจิกกิน ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อนกกระจอกเทศได้
และควรจัดอัตราส่วนพื้นที่ให้เหมาะสมกับจำนวนนกกระจอกเทศ โดยกำหนดพื้นที่ให้ตัวละ
1.5 ตารางเมตร (บริเวณที่เป็นโรงเรือน) และบริเวณด้านนอกซึ่งเป็นที่วิ่งเล่นของนกกระจอกเทศอย่างน้อยต้องมีพื้นที่ตัวละ
200 ตารางเมตร นอกจากนี้ผู้เลี้ยงไม่ควรเลี้ยงนกกระจอกเทศให้อยู่รวมเป็นฝูงเดียวกันมากกว่า
40 ตัว
3. ควรเพิ่มจำนวนภาชนะใส่น้ำและอาหารให้เหมาะสมกับจำนวนของนกกระจอกเทศ
และผู้เลี้ยงควรทำความสะอาดภาชนะที่ใส่น้ำและอาหารเป็นประจำทุกวัน และในเวลากลางคืนไม่ควรให้แสงสว่างมากนัก
เพราะแสงสว่างตามธรรมชาติที่นกกระจอกเทศได้รับ ก็เพียงพออยู่แล้ว และสุดท้ายอย่าลืมทำบันทึกข้อมูลต่างๆ
เกี่ยวกับอัตราการตาย การกินอาหาร การเจริญโตและอาการผิดปกติต่างๆดของนกกระจอกเทศไว้ด้วย
เพื่อประโยชน์ในการดูแลและแก้ไข เมื่อเกิดปัญหาขึ้น
ที่มา: นิตยสารเส้นทางเศรษฐี ฉบับที่ 74 เดือนเมษายน ปี
2544