Translate

การเลี้ยงนกกระจอกเทศ (พ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ )

การเลี้ยงนกกระจอกเทศพ่อพันธุ์- แม่พันธุ์ ( อายุ 2 ปีขึ้นไป )
นกกระจอกเทศ: สัตว์เศรษฐกิจ

สัตว์เศรษฐกิจ
นกกระจอกเทศที่เจริญเติบโตเต็มวัย เหมาะที่จะเป็นพ่อพันธุ์-แม่พันธุ์ ได้ ก็ต่อเมื่อนกกระจอกเทศเพศเมียมีอายุ 2 ปีขึ้นไป และนกกระจอกเทศเพศผู้มีอายุ 2.5 ปีขึ้นไป ระยะนี้ต้องได้รับการเลี้ยงดูอย่างถูกต้อง จึงจะให้ผลผลิตเนื้อ และการผสมพันธุ์ที่สมบูรณ์ได้ หากเราเลี้ยงดูแลอย่างดีทุกขั้นตอนแล้ว นกกระจอกเทศจะให้ผลผลิตไข่ติดต่อกันได้นานถึง 40 ปี (อัตราส่วนของคู่ที่ใช้ผสมพันธุ์ คือ เพศผู้ 1 ตัว ต่อเพศเมีย 1-3 ตัว)
การเลี้ยงนกกระจอกเทศ


ดังนั้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่ดี และเพื่อผลผลิตที่สมบูรณ์และสม่ำเสมอของนกกระจอกเทศ ผู้เลี้ยงจึงควรปฏิบัติ ดังนี้

1. ควรให้อาหารที่ประกอบด้วยโปรตีน 15 - 17 % พลังงาน 2,300 - 2,600 กิโลแคลลอรี่ แคลเซี่ยม 18 % ฟอสฟอรัส 0.9 % วันละ 1-3 กิโลกรัมต่อตัว และควรเสริมด้วยหญ้า นอกจากนี้ผู้เลี้ยงจะต้องมีหินเกล็ดตั้งไว้ให้นกจิกกินด้วย เพื่อช่วยในการย่อยอาหารของนก

2. ผู้เลี้ยงควรหมั่นทำความสะอาดภาชนะที่ใส่น้ำและอาหารของนกกระจอกเทศทุกวัน และมีน้ำตั้งไว้ให้นกกินอยู่ตลอดเวลา

3. ในระยะนี้ผู้เลี้ยงนกกระจอกเทศควรจัดพื้นที่ให้เหมาะสม โดยใช้อัตราส่วนพื้นที่ภายในโรงเรือนตัวละ 5-8 ตารางเมตร และบริเวณลานวิ่งเล่นของนกกระจอกเทศ (นอกโรงเรือน) ตัวละ 400-500 ตารางเมตร และควรเลี้ยงฝูงละประมาณ 2 - 4 ตัว (เพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1-3ตัว) ก็พอ

4. ควรเก็บไข่นกกระจอกเทศที่ฟักแล้วออกทุกวัน และนำไปรวบรวมไว้ในห้องควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรอการเข้าตู้ฟัก แต่มีเคล็ดลับอย่างหนึ่งก็คือ ผู้เลี้ยงจะต้องมีไข่ปลอมวางไว้เพื่อเป็นอุบายให้แม่นกกระจอกเทศวางไข่ติดต่อไปเรื่อยๆ และควรขังนกกระจอกเทศไว้ด้านนอกโรงเรือนก่อนที่จะเก็บไข่ออก เพราะนกกระจอกเทศช่วงผสมพันธุ์จะดุร้ายมาก อาจทำอันตรายผู้เลี้ยงได้

5. หมั่นตรวจสุขภาพนกกระจอกเทศทุกวัน หากมีปัญหาหรือมีอาการผิดปกติต้องรีบแก้ไขในทันที

6. หมั่นตรวจดูสภาพภายในโรงเรือนเป็นประจำทุกวัน หากอุปกรณ์ชิ้นใดชำรุดเสียหาย จะต้องรีบซ่อมแซม หรือแก้ไขให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ทันที


7. ควรจดบันทึกการให้ผลผลิต การตาย การกินอาหาร การให้ยา รวมถึงการให้วัคซีนต่าง ๆ ของนกกระจอกเทศ เป็นประจำทุกวัน

ข้อมูลภาพจาก:Google