Translate

การเลี้ยงลูกนกกระจอกเทศ (ช่วงอายุ 0-4 สัปดาห์)

การอนุบาลลูกนกกระจอกเทศ ในช่วงอายุ 0-4 สัปดาห์
นกกระจอกเทศ: สัตว์เศรษฐกิจ

สัตว์เศรษฐกิจ
สำหรับการเลี้ยงลูกนกกระจอกเทศในระยะนี้ ต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นดังนี้ เครื่องฟักไข่ อุปกรณ์สำหรับให้น้ำ ให้อาหารและวัสดุรองพื้นเป็นต้น และที่สำคัญอุปกรณ์ดังกล่าวจะต้องสะอาด และผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้ว และต้องตรวจสอบการทำงานของเครื่องกกลูกนกให้เรียบร้อย ก่อนการใช้งานจริงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง) มีข้อปฏิบัติในการดูแลลูกนกกระจอกเทศ ไว้ดังนี้

1. ต้องเปิดสวิทซ์ไฟเครื่องกกลูกนกประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง และตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 90 - 95 องศาฟาร์เรนไฮต์ ก่อนจะนำลูกนกกระจอกเทศเข้ามากก

2. ผู้เลี้ยงต้องเติมวิตามินในน้ำสำหรับเลี้ยงลูกนกกระจอกเทศ ก่อนที่จะให้ลูกนกกินประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อปรับอุณหภูมิของน้ำให้มีความใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อม และให้ลูกนกกินน้ำผสมวิตามินอย่างต่อเนื่องประมาณ 10-14 วัน

3. ในช่วงอายุ 2-3 วันแรกของนกกระจอกเทศ อาจจะไม่จำเป็นต้องให้อาหาร ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกนกกระจอกเทศ ดูดซึมอาหารและย่อยไข่แดงหมดเสียก่อน จากนั้นจึงให้อาหารข้นที่มีโปรตีน 20 – 22 % พลังงาน 2,700 กิโลแคลอรี่ แคลเซี่ยม 1.4 % ฟอสฟอรัส 0.7% หลังจากนั้น 7-10 วัน อาจให้หญ้าสดที่สับเป็นชิ้นเล็กๆ แก่ลูกนกกระจอกเทศเพิ่มขึ้นด้วย

4. ในระยะแรกลูกนกกระจอกเทศอาจจะยังไม่รู้จักอาหารและน้ำ ผู้เลี้ยงควรนำลูกนกกระจอกเทศไปยังที่ให้น้ำ แล้วจับปากจุ่มน้ำ 2-3 ครั้ง นิสัยโดยทั่วไปของนกกระจอกเทศเป็นสัตว์ที่ร่าเริง ดังนั้นอาจจะใส่ลูกบอลพลาสติก ลูกปิงปอง หรือลูกกอล์ฟ ในภาชนะให้อาหาร เพื่อให้ลูกนกกระจอกเทศเล่นไปด้วย จิกกินอาหารไปด้วย วิธีนี้จะทำให้ลูกนกกระจอกเทศกินอาหารได้มากยิ่งขึ้น

5. ควรขยายพื้นที่บริเวณที่ใช้กกลูกนกออกทุก ๆ 3 - 4 วัน อันนี้ขึ้นกับสภาพอากาศ และควรลดอุณหภูมิในบริเวณที่ใช้กกลูกนก ครั้งละ 5 องศาฟาเรนโฮต์ โดยจะใช้เวลากกลูกนกกระจอกเทศประมาณ 8 สัปดาห์ ทั้งนี้ให้สังเกตความสมบูรณ์ของลูกนกกระจอกเทศด้วย

6. ในระยะแรก นกกระจอกเทศจะมีอัตราการเติบโตประมาณเดือนละ 1 ฟุต จนกระทั่งนกกระจอกเทศสูงถึง 5 - 6 ฟุต จึงจะมีอัตราการเจริญเติบโตที่น้อยกว่า 1 ฟุตต่อเดือน

7. ในระยะ 4 สัปดาห์แรกควรให้แสงสว่างในโรงเรือนตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นค่อยลดระยะเวลาในการให้แสงสว่างลง เหลือ 20 - 23 ชั่วโมงต่อวัน และหมั่นตรวจดูวัสดุรองพื้นอยู่เสมอ ไม่ให้ชื้นแฉะ หรือแข็งเป็นแผ่น หรือมีกลิ่นเด็ดขาด หากมีต้องรีบแก้ไข และควรสังเกตอุจจาระของนกกระจอกเทศตลอดเวลา เพราะตามปกติของนกกระจอกเทศแล้ว จะถ่ายอุจจาระอ่อน ไม่แข็งแห้ง ปัสสาวะจะต้องเป็นน้ำใส ไม่เหนียว หรือขุ่นข้น

8. เมื่อนกกระจอกเทศแสดงอาการผิดปกติ ผู้เลี้ยงจะต้องรีบหาสาเหตุ และควรเอาใจดูแลใส่เรื่องสุขาภิบาลของนกกระจอกเทศ เพื่อหาทางแก้ไขโดยด่วน ต่อไป


ที่มา: นิตยสารเส้นทางเศรษฐี ฉบับที่ 74 เดือนเมษายน ปี 2544